สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ปกติผมจะเห็นแย้งหรือทะเลาะกับฝ่ายคุณพ่อคุณแม่เสมอ แต่กรณีผมเข้าข้าง จขกท. นะครับ
นิเทศศาสตร์เดี๋ยวนี้ตกงานกันขนาดหนัก อย่าไปเชื่อที่คนข้างบนเค้าพูดๆกันว่าภาพยนต์เงินดี เรียนอะไรถ้าเก่งจริงก็รุ่ง ปัญหาคือต่อให้จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองเอกฟิล์ม ถ้านายทุนทำหนังไม่ถูกใจ เขาก็ไม่เอาครับ แล้วเกียรตินิยมเนี่ยไม่ค่อยมีผลอะไรกับสายนิเทศเท่าไหร่ เขาจะดูผลงานตอนเรียนมากกว่า ถ้าเรียนอย่างเดียว ปั่นเกรดจนได้เกียรตินิยม แต่ไม่มีผลงานอะไรโดดเด่นเลย เขาก็ไม่เอาครับ คือ คนสติดีที่ไหนเค้าเรียนนิเทศศาสตร์ หรือเรียนภาพยนต์กันเวลานี้บ้าง แล้วแถมจะไปเรียนนิเทศ ม.กรุงเทพอีก คือ ถ้าเรียนนิเทศ จุฬาฯ ยังพออาศัยเส้นรุ่นพี่เข้าไปทำงานใน GDH แกรมมี่ได้บ้าง นี่จะไปเรียนมอกรุงเทพ เส้นสายคอนเนคชั่นก็ไม่แน่นเท่านิเทศ จุฬาฯอีก
แนะนำว่าอย่าให้ลูกเรียนนิเทศ เรียนภาพยนต์เด็ดขาดครับ ตกงานมาก็เป็นหน้าที่คุณที่ต้องหาเลี้ยงเขาไปอีก เว้นแต่คุณมีเงินถุงเงินถัง กิจการส่วนตัวให้ลูกมาสืบทอดก็อีกกรณี
ถ้าผมเป็นพ่อก็จะไม่ให้ลูกเรียนนิเทศครับ เรียนครุศาสตร์ จุฬาฯ หรือ อักษร จุฬาฯ เอกบาลีสันสกฤต เอกปรัชญา เอกประวัติศาสตร์ยังดีเสียกว่า เพราะอย่างน้อยๆ ครุศาสตร์ ก็สามารถไปเป็นครูได้ เรียนเอกบาลีสันสกฤต ปรัชญา ประวัติศาสตร์ ยังทำให้คนคิดเป็นระบบ มีเหตุผล ท้าทายเซลล์สมอง มีความลุ่มลึกในการดำรงชีวิตในสังคม แต่เรียนนิเทศ ไม่ได้อะไรเลย นอกจากความสนุกตลอดสี่ปี จะไปทางปรัชญาภาพยนต์ หรือประวัติศาสตร์ภาพยนต์ ก็ไม่ลุ่มลึกเท่าที่อักษรเรียนกัน
จขกท. บองลูกไป ว่าให้พบกันครึ่งทาง ให้เข้าอักษร จุฬาฯ วิชาในนั้นหลายตัวมันมีลักษณะ Film Studies ที่วิเคราะห์ภาพยนต์ในฐานะตัวบทอย่างหนึ่งเหมือนหนังสือ แล้วเอาทฤษฎีทางสังคมศาสตร์ หรือมนุษยศาสตร์มาวิเคราะห์ภาพยนต์ แล้วให้ลงวิชาโทที่นิเทศ จุฬาฯ เป็นภาพยนต์ศึกษา น่าจะประนีประนอมกันได้
นิเทศศาสตร์เดี๋ยวนี้ตกงานกันขนาดหนัก อย่าไปเชื่อที่คนข้างบนเค้าพูดๆกันว่าภาพยนต์เงินดี เรียนอะไรถ้าเก่งจริงก็รุ่ง ปัญหาคือต่อให้จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองเอกฟิล์ม ถ้านายทุนทำหนังไม่ถูกใจ เขาก็ไม่เอาครับ แล้วเกียรตินิยมเนี่ยไม่ค่อยมีผลอะไรกับสายนิเทศเท่าไหร่ เขาจะดูผลงานตอนเรียนมากกว่า ถ้าเรียนอย่างเดียว ปั่นเกรดจนได้เกียรตินิยม แต่ไม่มีผลงานอะไรโดดเด่นเลย เขาก็ไม่เอาครับ คือ คนสติดีที่ไหนเค้าเรียนนิเทศศาสตร์ หรือเรียนภาพยนต์กันเวลานี้บ้าง แล้วแถมจะไปเรียนนิเทศ ม.กรุงเทพอีก คือ ถ้าเรียนนิเทศ จุฬาฯ ยังพออาศัยเส้นรุ่นพี่เข้าไปทำงานใน GDH แกรมมี่ได้บ้าง นี่จะไปเรียนมอกรุงเทพ เส้นสายคอนเนคชั่นก็ไม่แน่นเท่านิเทศ จุฬาฯอีก
แนะนำว่าอย่าให้ลูกเรียนนิเทศ เรียนภาพยนต์เด็ดขาดครับ ตกงานมาก็เป็นหน้าที่คุณที่ต้องหาเลี้ยงเขาไปอีก เว้นแต่คุณมีเงินถุงเงินถัง กิจการส่วนตัวให้ลูกมาสืบทอดก็อีกกรณี
ถ้าผมเป็นพ่อก็จะไม่ให้ลูกเรียนนิเทศครับ เรียนครุศาสตร์ จุฬาฯ หรือ อักษร จุฬาฯ เอกบาลีสันสกฤต เอกปรัชญา เอกประวัติศาสตร์ยังดีเสียกว่า เพราะอย่างน้อยๆ ครุศาสตร์ ก็สามารถไปเป็นครูได้ เรียนเอกบาลีสันสกฤต ปรัชญา ประวัติศาสตร์ ยังทำให้คนคิดเป็นระบบ มีเหตุผล ท้าทายเซลล์สมอง มีความลุ่มลึกในการดำรงชีวิตในสังคม แต่เรียนนิเทศ ไม่ได้อะไรเลย นอกจากความสนุกตลอดสี่ปี จะไปทางปรัชญาภาพยนต์ หรือประวัติศาสตร์ภาพยนต์ ก็ไม่ลุ่มลึกเท่าที่อักษรเรียนกัน
จขกท. บองลูกไป ว่าให้พบกันครึ่งทาง ให้เข้าอักษร จุฬาฯ วิชาในนั้นหลายตัวมันมีลักษณะ Film Studies ที่วิเคราะห์ภาพยนต์ในฐานะตัวบทอย่างหนึ่งเหมือนหนังสือ แล้วเอาทฤษฎีทางสังคมศาสตร์ หรือมนุษยศาสตร์มาวิเคราะห์ภาพยนต์ แล้วให้ลงวิชาโทที่นิเทศ จุฬาฯ เป็นภาพยนต์ศึกษา น่าจะประนีประนอมกันได้
แสดงความคิดเห็น
ขอปรึกษาได้ไหมคะ ทะเลาะกับลูกเรื่องการเรียนต่อ
ดิฉันมีลูกชายอยู่1คน เป็นเด็กเรียนดีค่ะได้3.7ตลอด เขาเรียนสายศิลป์ภาษานะคะ เราอยากให้เขาเรียนต่อเกี่ยวกับภาษามากๆ เพราะสมัยนี้ถ้าได้ภาษาก็จะสบายเลยได้งานหลายอย่าง เราก็ลองเสนอให้เขาดู แรกๆเขาก็บอกว่าจะลองดูค่ะ เราก็วางใจ แต่วันนึงเขาบอกว่า อยากจะไปเรียนภาพยนตร์ที่ม.กรุงเทพ เราก็เลยถามไปปว่า แล้วมันจบไปได้ทำงานอะไร เขาก็ตอบว่า ก็เป็นผู้กำกับ หรือทำงานสายภาพยนตร์ แม่รู้สึกว่าคนที่จะมาเป็นผู้กำกับมันต้องมีเส้นสายอ่ะค่ะ มันเหมือนมาขายฝันให้เด็กเลย เราก็พยายามบอกเขาไปว่า เนี่ยจบไปมันเป็นยากนะลูก มันต้องเป็นคนมีเส้นมีสายไม่ใช่อยู่ๆไปแล้วทำได้ แต่เขาก็ยังบอกว่าอยากเรียนที่นี่อยู่ดี เพราะที่นั่นอุปกรณ์มันครบดี แต่เราไม่โอเคมากๆเพราะว่าคณะพวกนี้จบมาแล้วหางานยากมากๆ กลัวเขาจะไม่มีงานทำ ถ้าจะเอาสนุกตอนเรียนแต่รำบากตอนทำงานก็ไม่ไหว เราก็พยายามอธิบายเขาให้เข้าใจ แต่สุดท้ายก็ทะเลาะกันค่ะลูกไม่ยอมคุยด้วยเลย อาจจะเป็นเพราะเราดันเผลอพูดไปด้วยว่า "ถ้าจะเรียนคณะนี้จะไม่ยอมส่งเงินค่าเทอมให้"' รู้ค่ะว่าเหมือนเป็นการดับฝัน แต่เราห่วงอนาคตเขาไม่อยากให้เขาเอาเวลามาทิ้งกับอะไรแบบนี้ เป็นห่วงอนาคตว่าจะหางานยากอยากให้เขาเข้าใจเราค่ะ
ขอปรึกษาหน่อยนะคะ ไม่รู้จะปรึกษาใครไปปรึกษาเพื่อนก็ให้คำแนะนำได้ไม่ดีเท่าไหร่
ขอบคุณค่ะ